วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีทำไข่เยี่ยวม้า

เงินลงทุน :   เป็นค่าอุปกรณ์ประมาณ 1,000 บาท ไข่เป็ดประมาณ 3 บาท/ฟอง     (เงินลงทุนสำหรับไข่ และส่วนผสมต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับไข่ที่จะซื้อ)
รายได้ :   ประมาณ 4-5 บาท/ฟอง
อุปกรณ์ :   เตา หม้อต้มน้ำ ภาชนะพลาสติกแช่ไข่ ผ้าขาวบาง ไม้ไผ่สาน
ส่วนผสม :
- ไข่เป็ด           15            ฟอง
- ปูนขาว        300    กรัม
- เกลือ            200            กรัม
- โซดาแอช        120    กรัม
- ใบชาดำ (ชาจีน)     30         กรัม
- สังกะสีออกไซด์         1    กรัม
- น้ำสะอาด              2           ลิตร

วิธีทำ :
1.    นำไข่มาล้างเปลือกให้สะอาด ตั้งทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ เรียงไข่ลงในภาชนะพลาสติกที่สะอาด ปลอดภัย
2.    ต้มน้ำสะอาด เติมปูนขาว เกลือ โซดาแอช ใบชาดำ พอเดือด ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองเอาเศษตะกอนออกทิ้งไป เติมสังกะสีออกไซด์ คนให้ทั่ว
3.    เทส่วนผสม ตามข้อ 2 ลงในภาชนะที่ใส่ไข่ ใช้ไม้ไผ่สานขัดแตะปิดไว้เหนือไข่ เพื่อไม่ให้ไข่ลอย (ถ้าไข่ลอยจะเสีย) ปิดฝาภาชนะด้วยผ้าขาวบาง  แช่ทิ้งไว้ประมาณ 25 – 30 วัน
4.    เอาไข่ขึ้นล้างน้ำสะอาด ทิ้งไว้ให้ผิวแห้ง แล้วเคลือบเปลือกไข่ด้วยดินขาวผสมกับแป้งเปียกในอัตราส่วน 5:1 เก็บไว้ 10 วัน จึงนำออกจำหน่ายหรือรับประทานได้

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาดสดทั่วไป หรือติดต่อขายส่งพ่อค้า-แม่ค้า หรือร้านขายอาหาร
ข้อแนะนำ :
1.    ต้องเลือกไข่เป็ดที่ใหม่ สด และไม่มีตำหนิมาทำ เพื่อจะได้ไข่เยี่ยวม้าที่มีคุณภาพดี ไม่เสีย
2.    ภาชนะที่ใช้แช่ไข่ อาจใช้ภาชนะเคลือบก็ได้ แต่ต้องสะอาดและปลอดภัย

ไข่เค็มไอโอดีน

เงินลงทุน :
- ซื้ออุปกรณ์ เช่น เตา หม้อ โอ่ง หรือถังพลาสติก ประมาณ 3,000 บาท- ซื้อไข่ ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้แต่ละครั้ง
อุปกรณ์ :   เตา หม้อต้มน้ำ โอ่ง/ภาชนะพลาสติก/ภาชนะแก้วสำหรับดองไข่ ไข่เป็ด เกลือป่น น้ำสะอาดในปริมาณ 1:4 และไม้ไผ่ผ่าซีก
รายได้ :   ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปริมาณของไข่ที่ดองในแต่ละครั้งและราคาของไข่เป็ดที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญซึ่งขึ้น – ลง อยู่เสมอ



วิธีทำ :
1. ผสมน้ำกับเกลือในปริมาณ 1:4 นำไปตั้งไฟให้เดือดและเกลือละลายหมดตั้งทิ้งไว้ให้เย็น
2. ล้างไข่เป็ดให้สะอาด (ระวังอย่าให้ไข่แตก/ร้าว) ตั้งผึ่งไว้ให้แห้ง
3. บรรจุไข่ลงในภาชนะที่จะใช้ดอง
4. เทน้ำเกลือที่เย็นแล้วลงให้ท่วมไข่
5. นำไม้ไผ่ที่ผ่าซีกแล้ว มาขัดลงในภาชนะที่ดองไข่ เพื่อให้ไข่จมอยู่ในน้ำเกลือทั้งหมด (ระวังอย่าให้ไข่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ) ทิ้งไว้ 10-15 วัน
6. นำไข่เป็ดที่ดองได้ที่แล้วไปต้มให้สุก โดยใช้ไฟอ่อนๆ ใช้เวลา ประมาณครึ่งชั่วโมง
7. ช้อนไข่ขึ้นจากน้ำทิ้งไว้ให้เย็น แล้วบรรจุใส่กล่อง หรือถาดใส่ไข่เพื่อส่งไปจำหน่าย



ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาดสดทั่วไป หรือหากผลิตได้จำนวนมากอาจติดต่อพ่อค้าคนกลางมารับไปจำหน่าย
ข้อแนะนำ :
1. ในการดองไข่เค็ม หากต้องการให้ไข่แดงเป็นน้ำมัน ให้ใส่เหล้าขาวลงไปในน้ำเกลือเล็กน้อย
2. แกว่งสารส้มลงในน้ำที่ใช้ต้มไข่เค็ม เมื่อไข่สุกจะมีนวลขาวเกาะอยู่ที่เปลือกไข่เค็ม ดูน่ารับประทาน หรือจะใช้แป้งข้าวจ้าวทาที่ผิวไข่แทนก็ได้
3. ภาชนะที่ใช้ดองไข่ ควรเป็นภาชนะที่ไม่ทำปฏิกิริยากับเกลือ เช่น ภาชนะที่ทำด้วยแก้วพลาสติก อ่างหรือไห ทำจากเครื่องเคลือบดินเผา หรือเหล็กเคลือบที่ไม่กะเทาะ

ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก

เงินลงทุน : ประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมสถานที่) (โต๊ะ-เก้าอี้ 4 ชุด 2,400 บาท ตู้กระจก 1,000 บาท โต๊ะวางตู้กระจก 500 บาท หม้อก๋วยเตี๋ยว 1,300 บาท เตาและถังแก๊ส 1,800 บาท)
รายได้ :  ประมาณ 1,200 บาท/วัน/300 ชาม
วัสดุ/อุปกรณ์ :  โต๊ะ-เก้าอี้ ตู้กระจก โต๊ะวางตู้กระจก หม้อก๋วยเตี๋ยว เตาและถังแก๊สตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยว กระบวยตักน้ำก๋วยเตี๋ยว อุปกรณ์ใส่เครื่องปรุง ชาม ช้อน ตะเกียบ เขียง มีด
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :  ร้านจำหน่ายอุปกรณ์อลูมิเนียม ตลาด ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
วิธีทำ :
ส่วนผสมน้ำซุป
- น้ำสะอาด 50 ลิตร
- กระดูกหมู 2 กิโลกรัม
- เอ็นหมู 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลกรวด 2 ก้อน
- เกลือ 1 ห่อเล็ก
- พริกไทยป่น ½ ห่อ
- เครื่องเทศ 1 กำมือ
- ใบเตย 1 กำ
- ซอสปรุงรส 1/3 ขวดใหญ่
- ซีอิ้วดำ ½ ถ้วยน้ำซุป





วิธีทำ :   นำหม้อก๋วยเตี๋ยวตั้งน้ำให้เดือด นำกระดูกหมูและเอ็นหมูซึ่งล้างแล้ว ใส่ลงไปปิดฝาทิ้งไว้ใช้ไฟปานกลางประมาณ ½ ชั่วโมง แล้วใส่น้ำตาลกรวด ผงชูรส เกลือ พริกไทยป่น เครื่องเทศ ซอสปรุงรส ใบเตย ซีอิ้วดำ จากนั้นต้มไปอีกประมาณ ½ ชั่วโมง พอสังเกตเห็นมีน้ำมันจากกระดูกลอยในหม้อ เท่านี้ก็ได้น้ำก๋วยเตี๋ยวแล้ว จากนั้นตักเอ็นหมูขึ้นมาผึ่งไว้ให้เย็น
เครื่องปรุง :
1. เส้นก๋วยเตี๋ยว (เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น) จัดเตรียมไว้ในตู้กระจก (เส้นหมี่ ควรแช่น้ำอุ่นให้เส้นคลายตัวเสียก่อน จึงน้ำขึ้นเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ส่วนวุ้นเส้น ควรแช่ไว้ในน้ำเสมอเพื่อให้เส้นนิ่ม)
2. เนื้อหมูสด และตับหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ พอคำ วางไว้บนน้ำแข็ง เพื่อทำให้เนื้อหมูสดเสมอ
3. เอ็นหมูต้มเปื่อยนำมาหั่นเป็นก้อน
4. ลูกชิ้นหมู
5. เลือดหมูสดใส่ภาชนะ
6. ผักต่าง ๆ ล้างให้สะอาด
- ผักบุ้ง หั่นเป็นชิ้น ๆ แช่น้ำไว้
- ถั่วงอก แช่น้ำไว้
- ผักชีฝรั่งหั่นฝอย
7. เครื่องปรุง น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น ถั่วลิสงคั่ว พริกน้ำส้ม (ให้นำพริกสดไปบดผสมกับน้ำส้มสายชู ½ แกลลอน และน้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อน) แล้วใส่อุปกรณ์ ใส่เครื่องปรุงวางไว้บนโต๊ะทุกตัวเพื่อบริการลูกค้า



วิธีทำ :
ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว (ตามที่ลูกค้าสั่ง) พร้อมถั่วงอกและผักบุ้งด้วยตะกร้อ ลวก ใส่ชามไว้ นำเนื้อหมูสด ตับ ลูกชิ้น ใส่ตะกร้อลวกพอสุกใส่ชาม ใส่เอ็นหมูต้มเปื่อย โรยหน้าด้วยผักชีหั่นฝอย ตักเลือด 1 ช้อนชา ใส่ใสชามปรุงอีกใบหนึ่ง ใช้กระบวยตักน้ำซุปที่ร้อนจัด ในหม้อก๋วยเตี๋ยวใส่ชามปรุง คนให้เข้ากันเสร็จแล้วนำไปเทใส่ในชามก๋วยเตี๋ยวที่จะเสิร์ฟลูกค้า น้ำก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ต้องให้ขลุกขลิก อย่าให้น้ำเยอะจะไม่เข้มข้น แล้วนำไปเสิร์ฟลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าปรุงรสได้ตามใจชอบ
ตลาด/แหล่งจำหน่าย :  เปิดร้านขายที่บ้านหรือเช่าสถานที่ในแหล่งชุมชน ตลาด
ข้อแนะนำ :
1. ส่วนผสมน้ำซุปถ้าทำปริมาณมากหรือน้อย ให้เพิ่มและลดอัตราส่วนได้ตามต้องการ
2. น้ำซุปต้องต้มให้เดือดตลอดเวลา เพราะเวลาใส่เลือดแล้วจะได้ไม่เหม็นคาว
3. การเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ควรมีแคบหมู ถั่วงอกดิบ ใบโหระพา ไว้บริการลูกค้าด้วย
4. เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อหมู ผัก ซื้อในปริมาณที่พอเหมาะในการขายและเงินลงทุน
5. เครื่องปรุงทุกอย่างต้องทำสด ๆ วันต่อวัน



ขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

หมูยอ ขายง่าย กำไรดี


เงินลงทุน :  ประมาณ  35,000 บาท    (เครื่องผสม  ราคา  30,000 บาท)
รายได้ :   22-30 บาท/แท่ง
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เครื่องผสม (หรือเรียกว่าเครื่องตีลูกชิ้น)  ตู้เย็น  ตาชั่ง  ลังถึง  เตาแก๊ส  ใบตอง  มีด  เชือกฟาง
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :   ย่านเวิ้งนาครเขษม  กรุงเทพฯ
ส่วนผสม :
- เนื้อหมู 4  กิโลกรัม
- มันหมูแข็งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ½ กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
- เกลือไอโอดีน 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาวบด 1.5 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำแข็งบด 4 ขีด
- กระเทียมแกะแล้ว 2 ขีด



วิธีทำ :
1.    นำเนื้อหมูมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นมาหั่นเป็นชิ้นขนาดเท่าฝ่ามือ
2.    นำเนื้อหมูใส่ลงในเครื่องผสม แล้วเปิดเดินเครื่องใช้เวลาประมาณ 1 นาทีจากนั้นใส่มันหมูแข็ง น้ำแข็งลงไป เดินเครื่องต่อไปประมาณ 2 นาที สังเกตดูเนื้อหมูเริ่มละเอียด ใส่พริกไทยขาวบด ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือไอโอดีน กระเทียม เดินเครื่องต่อไปอีกประมาณ 2 นาที เมื่อเนื้อหมูกับเครื่องปรุงละเอียดเนียนดีแล้ว ปิดเครื่อง
3.    นำใบตองสดตัดตามขนาดที่ต้องการนำมาห่อหมูบด โดยนำหมูที่บดแล้วไปชั่งน้ำหนักแท่งละ 120 กรัม นำไปบีบในมือให้เป็นรูปแท่งยาว วางบนใบตองอ่อน แล้วห่อให้แน่น จากนั้นนำหมูที่ห่อใบตองอ่อนไปห่อด้วยใบตองสดอีกชั้นมัดด้วยเชือกและรัดหนังยาง
4.    นำเนื้อหมูที่ห่อเสร็จแล้วใส่ลังถึง นำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สุกแล้วนำไปจำหน่ายได้ทันที ส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งจะเก็บได้นาน 7 วัน





ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   แหล่งชุมชน  ร้านค้าทั่วไป  มินิมาร์ท  ร้านอาหาร  ตลาดสด
ข้อแนะนำ :
1.    เนื้อหมูที่นำมาทำหมูยอ ต้องใช้หมูส่วนตะโพก ไม่ติดมันและต้องสดออกจากโรงฆ่าสัตว์ไม่เกิน 8 ชั่วโมง
2.    การห่อหมูยอ ต้องมัดห่อให้แน่นจริง ๆ ไม่อย่างนั้นหมูยอจะไม่กรอบอร่อย



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

หมูสะเต๊ะ

เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 3,800 บาท
รายได้ :   ประมาณ 12,000 – 15,000 บาท/เดือน
วัสดุ/อุปกรณ์ :   รถเข็น เตาถ่านและตะแกรงย่าง ไม้เสียบหมูสะเต๊ะ ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก
เครื่องปรุง :
- เนื้อหมู 10 กิโลกรัม
- น้ำสับปะรดคั้น ½ ถ้วยตวง
- เกลือ ½ ขีด นมสด 1 กระป๋อง
- น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
- ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
- (สีผสมอาหารสีเหลืองอีกเล็กน้อย)
วิธีทำ :
1. นำเนื้อหมูมาแล่ขนาด 1 x 2.5–3 นิ้ว บางพอประมาณ โรยน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นนำน้ำสับปะรด เกลือ นมสด ผงกะหรี่ และสีผสมอาหารสีเหลืองลงไปอีกเล็กน้อย คนให้ เข้ากัน แล้วนำไปเทใส่เนื้อหมูเคล้าให้ทั่ว เสร็จแล้วนำไปใส่กล่องพลาสติก แช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา พอรุ่งเช้าจึงนำหมูออกมาเสียบไม้ เสร็จแล้วก็นำหมูเข้าแช่ในช่องแช่แข็งอีกสัก 1 ชั่วโมง
2. เครื่องปรุงน้ำกะทิพรมหมูสะเต๊ะ
- หัวกะทิ 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ :   นำหัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟให้เดือด แล้วยกลง
วิธีย่างหมูสะเต๊ะ    :    นำหมูที่เสียบไม้ออกจากช่องแช่แข็ง แล้วนำมาชุบในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ก่อนจะนำขึ้นย่างไฟต้องย่างไฟปานกลาง ห้ามใช้ไฟอ่อน หมูจะแข็ง ไม่อร่อย แล้วก็พรมน้ำกะทิเป็นระยะขณะกำลังย่าง หากเนื้อหมูตรงไหนไหม้ก็ใช้กรรไกรตัดทิ้ง เพราะจะดูไม่น่ารับประทาน




ส่วนผสมน้ำจิ้ม :
- หัวกะทิ 4 กิโลกรัม
- ถั่วลิสงคั่วตำละเอียด 1 กิโลกรัม
- งาขาวคั่ว 1 กิโลกรัม
- น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ขีด
- เกลือ 1.5 ช้อนชา
- น้ำพริกแกงมัสมั่น 1 ขีด
- น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
วิธีทำ :   แยกหัวกะทิ 2 กิโลกรัม มาผัดให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกแกงมัสมั่น น้ำตาลปี๊บลงไปผัด ใส่เกลือผัดให้หอม ใส่หัวกะทิลงไปอีก 2 กิโลกรัม ปล่อยให้เดือดมาก ๆ แล้วลดไฟลง ใส่ถั่วและงาลงไป คนให้ละลายเข้ากัน ทิ้งไว้ให้เดือดจนน้ำกะทิแตกมัน ยกลงจากเตาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนนำออกขายให้อุ่นอีกครั้ง เพื่อถั่วและงาจะพองตัวได้เต็มที่
ส่วนผสมน้ำอาจาด :
- น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
- น้ำส้มสายชู ½ ขวด
- เกลือถุงเล็ก ½ ถุง
- แตงกวา(ลูกเล็ก) 5 กิโลกรัม
- พริกชี้ฟ้า 3 ขีด
- หอมแดงหัวเล็ก 5 ขีด
วิธีทำ :   หั่นแตงกวาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปอกหัวหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาหน่อย พริกหั่นเป็นแว่นหนา แบ่งใส่ภาชนะไว้ต่างหาก เอาน้ำส้มสายชูมาผสมกับเกลือและน้ำตาลทราย นำไปตั้งไฟให้เป็นยาง ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาด แหล่งชุมชน
ข้อแนะนำ :
1. รสชาติของน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะต้องหวานนำ ตามด้วยเค็มเล็กน้อย
2. ถ้าบริเวณที่อยู่อาศัยเป็นทำเลที่เหมาะกับการค้าขาย ก็ไม่ต้องซื้อ รถเข็น ทำให้ประหยัดเงินลงทุนได้
3. เนื้อหมูให้ใช้เนื้อหมูสันในสดๆ และต้องทำให้สะอาดน่ารับประทาน
4. สามารถนำมาปรับใช้เป็น เนื้อวัว ไก่ หรือปลาได้

ข้าวเหนียว หน้าหมู-เนื้อ


เงินลงทุน : ประมาณ 4,000  บาท (เตาแก๊สพร้อมถังแก๊ส 2,000 บาท โต๊ะพับขา 400 บาท)
รายได้ : ประมาณ  1,500 บาท/วัน
วัสดุ/อุปกรณ์ : เตาพร้อมถังแก๊ส กระทะ กะละมัง หม้อ ลังถึง ตะหลิว ทัพพี กระติกน้ำแข็ง (ใส่ข้าวเหนียว)  โต๊ะพับขา  กล่องโฟมเบอร์ 8 ถุงพลาสติก
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ย่านเวิ้งนาครเขษม
วิธีทำข้าวเหนียว : นำข้าวเหนียวประมาณ 4 กิโลกรัม แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นซาวน้ำให้สะอาด นำไปนึ่งในลังถึงประมาณ 30 นาที เมื่อข้าวเหนียวสุกนำไปใส่ในกระติกน้ำแข็ง เพื่อรักษาความร้อนให้คงทนได้นาน
ส่วนผสมหน้าหมู/เนื้อ :
- หมูเนื้อแดงหรือเนื้อวัว  5    กิโลกรัม
- น้ำตาลปี๊บ        3    กิโลกรัม
- เกลือป่น        2    ถ้วยตวง
- ซอสถั่วเหลือง     2         ถ้วยตวง
- รากผักชี        2    ขีด
- หอมแดง        1         กิโลกรัม
- ซีอิ๊วหวาน        1/3    ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช

วิธีทำ :
1.    นำเนื้อหมู/วัว มาต้มน้ำ โดยใส่น้ำพอท่วมเนื้อ แล้วใส่เกลือป่นและซอสถั่วเหลือง ชนิดละ 1 ถ้วยตวง ผสมลงไปในน้ำต้ม
2.    หลังจากเนื้อหมู/วัว ต้มสุกจนเปื่อยแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็นสักเล็กน้อยนำมาฉีกเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปคั่วในกระทะ ใส่ซีอิ๊วหวานผสมลงไปคั่ว  จนแห้ง ตักขึ้นจากกระทะ
3.    นำน้ำตาลปี๊บลงกวนในกระทะจนละลายเหลว แล้วนำเนื้อหมู/วัว ในข้อ 2  ลงไปผัดกับน้ำตาล ใส่เกลือป่นและซอสถั่วเหลืองชนิดละ 1 ถ้วยตวง   และรากผักชี ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยไฟอ่อนจนเนื้อหมู/วัวแห้งกรอบ  ตักขึ้นใส่ภาชนะ
4.    นำหอมแดงมาหั่นซอยบาง ๆ  แล้วนำไปเจียวกับน้ำมันพืช ในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนมีสีเหลืองหอม จึงตักขึ้นจากน้ำมันใส่ภาชนะไว้
5.    เมื่อนำออกขายให้หยิบข้าวเหนียวใส่กล่องโฟมประมาณ 2 ขีด ตักเนื้อหมู/วัวเส้นใส่บนข้าว เหนียว โรยหอมเจียวเล็กน้อย หากลูกค้าต้องการซื้อเฉพาะเนื้อหมู/วัวเส้นก็ขายเป็นขีด โดยบรรจุใส่ถุงพลาสติกให้
ตลาด/แหล่งจำหน่าย : แหล่งชุมชน  ตลาดทั่วไป ป้ายรถประจำทาง



ข้อแนะนำ
 :
1.    การเลือกซื้อหมูเนื้อแดง ควรซื้อเฉพาะบริเวณสะโพกเพราะมีมันน้อย สะดวก       ในการฉีกเป็นเส้นเล็กๆ  หากมีมันติดมาด้วยควรตัดทิ้งให้หมด
2.    ควรแยกต้มเนื้อหมูและเนื้อวัวคนละหม้อ เพื่อป้องกันกลิ่นปนเปื้อน
3.    การผัดเนื้อหมู/วัว ในช่วงที่น้ำตาลใกล้จะแห้ง ควรพลิกเนื้อในกระทะบ่อยๆ เพื่อป้องกัน    น้ำตาลไหม้



ขอบคุณ เนื้อหา และภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

ข้าวเหนียว หมูปิ้ง

เงินลงทุน :   เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 3,600 บาท (รถเข็น 3,000 บาท เตาถ่านและตะแกรงย่าง 100 บาท)
รายได้ :  ประมาณ 6,000 บาท/เดือน
อุปกรณ์ :  รถเข็น เตาถ่านและตะแกรงย่าง ไม้เสียบหมูย่าง ถุงพลาสติก


ส่วนผสม
- หมู 1 กิโลกรัม
- กะทิ ½ ถ้วยตวง

- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
- รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด 1 ช้อนชา





วิธีทำ :   หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ กว้าง 1 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว นำมาคลุกกับน้ำตาลทราย น้ำปลา ซีอิ๊วดำ กระเทียม พริกไทย รากผักชี หมักไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำหมูมาเสียบไม้ ย่างไฟปานกลาง ขณะที่ย่างพรมหัวกะทิ ย่างจนสุกได้ที่
ข้าวเหนียว    :   นำข้าวเหนียวประมาณ 2 กิโลกรัม แช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน จึงซาวน้ำทิ้ง แล้วนำมานึ่งโดยใส่น้ำอย่าให้ท่วมข้าวเหนียว นึ่งประมาณครึ่งชั่วโมง



ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาด แหล่งชุมชน
ข้อแนะนำ :
1. หากบริเวณที่อยู่อาศัยเป็นทำเลที่เหมาะกับการค้าขาย ก็ไม่ต้องซื้อรถเข็น ทำให้ประหยัดเงินลงทุนได้
2. ทำให้สะอาดน่ารับประทาน และใช้เนื้อหมูสด ๆ ไม่ผสมสีหรือสารกันบูด



ขอบคุณ เนื้อหาและรูปภาพจากอินเตอร์เน็ท